วางแผนวัคซีนพื้นฐานเพื่อลูกรัก เสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากโรคร้าย

[gkwork]

เมื่อลูกรักมีความรู้สึกเจ็บป่วยไข้หรือเปล่าสบายตัวทีไร คุณพ่อและก็รวมทั้งคุณแม่แล้วก็สมาชิกทุกท่านในบ้านต่างพากันไม่สบายใจอีกทั้งครอบครัว เนื่องจากเด็กตัวเล็กๆภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง เจ็บไข้ได้ป่วยได้ง่าย รวมทั้งอยู่ในตอนวัยที่ยังไม่สามารถที่จะบอกความรู้สึกของตนเองได้อย่างเห็นได้ชัด พ่อกับแม่ก็เลยจำเป็นต้องสร้างความแข็งแรงให้ลูกตั้งแต่วัยทารกด้วยวัคซีนเด็ก ที่มีทั้งยังวัคซีนหลักรวมทั้งวัคซีนเสริม ซึ่งเป็นการสร้างภูมิต้านทานต่อโรคจุดมุ่งหมาย พร้อมทั้งลดจังหวะสำหรับในการก่อโรคไม่ให้ทุกการเจ็บป่วยมาเป็นปัญหา เพื่อลูกรักเติบโตผ่องใสรวมทั้งมีวิวัฒนาการสมอายุแข็งแรง

วัคซีนเด็ก ตัวเล็กๆสำคัญยังไง? ในเด็กตัวเล็กๆที่ร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับเชื้อโรค การฉีดยา ก็เลยเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน ให้สนองตอบทันทีทันควันต่อเชื้อโรคที่ไปสู่ร่างกาย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นลักษณะของการเจ็บเจ็บไข้ร้ายแรง ด้วยเหตุดังกล่าวเด็กทุกคนก็เลยจะต้องได้รับวัคซีนที่จำเป็นต้องตั้งแต่ตอนแรกกำเนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนรากฐาน

วัคซีนเด็กรากฐานที่จำเป็นจะต้องสำหรับลูกรัก ที่เด็กทุกคนควรจะได้รับ
เพื่อเป็นการสร้างเสริมภูมิต้านทานแต่ละตอนวัย จากที่กระทรวงสาธารณสุขได้วางนโยบายรวมทั้งลำดับการฉีดยาไว้ ถัดจากนี้เป็นวัคซีนเด็กเบื้องต้นที่จำเป็นจะต้องสำหรับลูกรักที่คุณพ่อกับคุณแม่จำเป็นต้องให้ความใส่ใจ และก็พาสมาชิกตัวน้อยในครอบครัวเข้ารับวัคซีนอย่างสมบูรณ์ตามแต่ละตอนวัย

1.วัคซีนวัณโรค (BCG ) : วัคซีนประเภทฉีดเพียงแค่ 1 เข็ม เมื่อหนแรกคลอดหรือก่อนกลับไปอยู่ที่บ้าน ข้างหลังรับวัคซีนแล้ว 3 - 4 อาทิตย์ จะมีตุ่มแดงถูกจุดที่ได้รับวัคซีน อาจมีหนองหรือเปล่ามีก็ได้ เพียงแต่ใช้สำลีชุบน้ำสุกสุกชำระล้างให้แผลแห้งอยู่เป็นประจำก็จะหายไปเองใน 3 - 6 อาทิตย์
2.วัคซีนตับอักเสบบี (HBV) : วัคซีนจำพวกฉีด 3 เข็ม สามารถฉีดได้หลายแนวทาง อาทิเช่น เริ่มฉีดเข็มที่ 1 เมื่อทารก เข็มที่ 2 เมื่อแก่ครบ 1 เดือน แล้วก็เข็มที่ 3 เมื่อเด็กครบ 6 เดือน สามารถคุ้มครองป้องกันโรคที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเชื้อไวรัสตับอีกเสบบี ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของโรคมะเร็งตับ รวมทั้งโรคตับแข็งในคนแก่
3.วัคซีนคอตีบ โรคไอกรน โรคบาดทะยัก (TdaP) : วัคซีนจำพวกฉีดรวมโรค 3 เข็ม ฉีดเมื่ออายุ 2 เดือน 4 เดือน แล้วก็ 6 เดือน เป็นลำดับ ต่อจากนั้นควรจะฉีดเพื่อกระตุ้นรูปแบบการทำงานของวัคซีนอีก 3 ครั้ง ในช่วงอายุ 1 ปี 6 เดือน รวมทั้งอายุ 4-6 ปี อายุ 10-12 ปี ต่อจากนั้นควรจะฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
4.วัคซีนโรคฮิป (Hib) : โรคฮิป มีสาเหตุมาจากการได้รับเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งโดยมากนำไปสู่โรคปอดอักเสบ หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ คุ้มครองป้องกันด้วยวัคซีนจำพวกฉีด 3 เข็ม เมื่อแก่ 2 เดือน 4 เดือน รวมทั้ง 6 เดือน เป็นลำดับรวมทั้งสามารถฉีดเข็มกระตุ้นอีกรอบในช่วงอายุ 1 ปี 6 เดือน

5.วัคซีนโรต้า : คุ้มครองป้องกันโรคท้องร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า ลดความร้ายแรงของอาการอ้วกรวมทั้งท้องเสียที่พบได้มากในเด็กได้ด้วยวัคซีนจำพวกรับประทาน แบบเบื้องต้นเป็น Monovalent (Human) ให้รับประทาน 2 ครั้ง เมื่ออายุ 2 และก็ 4 เดือน ถ้าเกิดเป็นวัคซีนเสริมเป็น Pentavalent (Bovine- Human) รับประทาน 3 ครั้ง เมื่ออายุ 2 เดือน 4 เดือน แล้วก็ 6 เดือน
6.วัคซีนปกป้องฝึกหัด โรคเหือด คางทูม (MMR) : 3 โรคที่ติดต่อกันได้ง่ายแล้วก็เร็วทันใจผ่านละอองจากการหายใจ คุ้มครองได้ด้วยวัคซีนจำพวกฉีด 2 เข็ม เริ่มฉีดเข็มที่ 1 เมื่ออายุ 9-12 เดือน แล้วก็ฉีดครั้งที่ 2 เมื่ออายุ 18-24 เดือน
7.วัคซีนโปลิโอ : แบ่งได้ 2 จำพวก อย่างเช่น จำพวกรับประทาน(OPV) 5 ครั้ง เมื่ออายุ 2, 4, 6 เดือน, 1 ขวบครึ่ง รวมทั้งตอนอายุ 4 เดือน จำเป็นต้องได้รับวัคซีนโปลิโอประเภทฉีด(IPV)ร่วมด้วยอีก 1 เข็มเพื่อกระตุ้นภูมิต้านทาน ในขณะถ้าเกิดเลือกใช้แบบฉีดเลยตั้งแต่ทีแรกกำเนิด วัคซีนโปลิโอประเภทฉีดจะถูกรวมเข็มไปกับวัคซีน คอตีบ โรคไอกรน โรคบาดทะยัก อยู่แล้ว
8.วัคซีนปกป้องไข้สมองอักเสบเจอี (LAJE1) : เป็นผลมาจากการเช็ดกพาหะนำโรคอย่างยุงหงุดหงิดกัด รวมทั้งยังไม่มีแนวทางรักษาโดยตรง เด็กไทยทุกคนก็เลยจำเป็นต้องได้รับวัคซีนจำพวกฉีด 2 เข็ม โดยฉีดเข็มแรกมื่ออายุยง 1 ปี และก็เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 3 - 12 เดือน ตามแต่จำพวกของวัคซีน

วัคซีนช่องทางเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคอื่นๆให้ลูกรัก
ด้วยเหตุว่าเชื้อไวรัสมีความมากมาย ยังมีวัคซีนปกป้องโรคยอดนิยมอีกมายมายสำหรับเด็กตัวเล็กๆที่ไม่อยู่ในรายการวัคซีนเด็กฐานราก แม้กระนั้นมีหน้าที่สำคัญสำหรับการช่วยคุ้มครองป้องกันโรคอย่างครอบคลุม แถมวัคซีนหลากหลายประเภทยังรวมภูมิคุ้มกันโรคไว้ได้ในเข็มเดียวแทนการแยกฉีดหลายหน โดยมีรายการวัคซีนเสริมสำหรับลูกน้อย ดังต่อไปนี้

1.วัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคมือ เท้า ปาก จากเชื้อไวรัส EV71 : โรคยอดนิยมในวัยเด็ก ติดต่อได้โดยการสัมผัส รวมทั้งระบาดหนักในช่วงฤดูฝน ทำให้มีลักษณะไข้สูง เป็นแผลในปาก มีตุ่มน้ำใสตามฝ่ามือ ฝ่าตีน และก็ลำตัว คุ้มครองป้องกันได้ด้วยวัคซีนจำพวกฉีด 2 เข็ม โดยเว้นระยะห่างจากเข็มแรก 1 เดือน เหมาะกับเด็กอายุ 6 เดือน – 5 ปี
2.วัคซีนตับอักเสบเอ : เชื้อไวรัสตับอัดเสบสามารถติดต่อผ่านสารคัดเลือกหลั่งของผู้มีเชื้อ แล้วก็สามารถติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ เสริมภูเขาไม่ให้ลูกน้อยด้วยวัคซีนประเภทฉีด 2 เข็ม เริ่มฉีดช่วงอายุ 1 ปีขึ้นไป แล้วก็เข็มที่ 2 ห่างกัน 6 - 12 เดือน
3.วัคซีนปกป้องปอดอักเสบ (IPD) : ลดการเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดปอดอัดเสบจำพวกร้ายแรง เยื่อหุ้มสมองกักเสบ และก็ติดเชื่อในกระแสโลหิต เหตุเพราะเชื้อนิวโมคอคัส ด้วยวัคซีนประเภทฉีด 3 เข็ม โดยเริ่มฉีดเข็มที่ 1 เมื่ออายุ 2 เดือน เข็มที่ 2 อายุ 4 เดือน และก็เข็มที่ 3 อายุ 6 เดือน ในขณะนี้เสนอแนะเข็มกระตุ้น เข็มที่ 4 ที่อายุ 15 เดือน
4.วัคซีนไข้หวัดใหญ่ : วัคซีนประเภทฉีดปริมาณ 1 เข็ม ในทุกตอนวัย (ถ้าหากอายุน้อยกว่า 9 ปี จะฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน ในปีแรก ต่อไปปีละ 1 เข็มตามธรรมดา) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กตัวเล็กๆแล้วก็กรุ๊ปเสี่ยงสูง ควรจะฉีดยาคุ้มครองป้องกันไข้หวัดใหญ่ซ้ำเสมอๆทุกปี เพื่อครอบคลุมสายพันธุ์ที่คาดว่าจะมีการระบาด แล้วก็ลดอาการร้ายแรงเมื่อป่วยหนัก
5.วัคซีนโรคผ่องใส : ในฝูงชนทั่วๆไปอาจมีลักษณะของการมีไข้บางส่วนร่วมกับมีตุ่มใสตามร่างกาย แม้กระนั้นลักษณะของโรคบางทีอาจร้ายแรงได้มากกว่าในเด็กตัวเล็กๆที่อายุต่ำยิ่งกว่า 1 ปีแล้วก็คนที่มีระบบระเบียบภูมิต้านทานอ่อนแอ โดยธรรมดาเด็กควรจะได้รับวัคซีนโรคเปล่งปลั่งปริมาณ 2 เข็ม เริ่มเมื่ออายุ 12 - 15 เดือน รวมทั้งเข็มที่ 2 โดยเว้นระยะห่างจากเข็มที่ 1 อย่างต่ำ 6 เดือน
6.วัคซีนปกป้องโรคมะเร็งปากมดลูก (HPV) : ช่วยลดการเสี่ยงโรคมะเร็งปากมดลูกได้ เริ่มฉีดเข็มแรกได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป โดย ช่วงอายุ 9 -15 ปี ฉีดยาเพียงแค่ 2 ครั้งห่างกัน 6 - 12 เดือน ถ้าหากอายุเกิน 15 ปี ฉีด 3 เข็ม โดย เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 - 2 เดือน และก็เข็มที่ 3 ฉีดภายหลังเข็มแรก 6 เดือน สามารถฉีดได้ในเด็กชาย เพื่อคุ้มครองปกป้องโรคมะเร็งทวารหนัก แล้วก็ โรคมะเร็งกล่องเสียงบางจำพวกได้

โรงหมอหลุดพ้นพร้อมดูแลสมาชิกตัวน้อยของทุกครอบครัวด้วยแพ็กเกจวัคซีนเด็ก ที่ครอบคลุมทุกช่วงอายุสำหรับลูกน้อย

- วัคซีนฐานรากตามวัยสำหรับเด็ก แผน A สำหรับอายุ 1-6 เดือน ราคา 5,300 บาท
- วัคซีนรากฐานตามวัยสำหรับเด็ก แผน B สำหรับอายุ 1-2.5 ปี ราคา 4,000 บาท
- วัคซีนฐานรากตามวัยสำหรับเด็ก แผน C สำหรับอายุ 1 เดือน-1 ปี ราคา 9,500 บาท
- วัคซีนฐานรากตามวัยสำหรับเด็ก แผน D สำหรับอายุ 1.5 ปี-2.5 ปี ราคา 2,800 บาท
- วัคซีนเสริม คุ้มครองโรคมือ เท้า ปาก (จากเชื้อไวรัส EV71) 2 เข็ม สำหรับอายุ 6 เดือน- 5 ปี ราคา 5,990 บาท
- วัคซีนเสริมคุ้มครองปกป้องเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ 2 เข็ม สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป ราคา 2,400 บาท
- วัคซีนเสริมคุ้มครองปอดอักเสบ (IPD) 13 สายพันธุ์ 3 เข็ม สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 2 เดือน ขึ้นไป ราคา 9,000 บาท
- วัคซีนเสริมโรตา 3 ครั้ง สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 2 เดือน ขึ้นไป ราคา 3,000 บาท
- วัคซีนคุ้มครองโรคอีสุกอีใส สำหรับเด็กอายุ 1 ปี ขึ้นไป 2 เข็ม ราคา 2,900 บาท
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ สำหรับเด็กอายุ 6 ข้างขึ้นไป ราคา 850 บาท
- วัคซีนปกป้องโรคมะเร็งปากมดลูก (Gardasil) 4 สายพันธุ์ สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 9-15 ปี 2 เข็ม ราคา 6,700 บาท รวมทั้งวัคซีนคุ้มครองโรคมะเร็งปากมดลูก (Gardasil) 9 สายพันธุ์ สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 9-15 ปี 2 เข็ม ราคา 14,700 บาท

พ่อกับแม่อย่าลืมพกสมุดสุขภาพประจำตัวลูกน้อยไปด้วยครั้งใดก็ตามเข้ารับวัคซีน เพื่อกุมารแพทย์ใช้เป็นข้อมูลสำหรับในการประเมินภูมิต้านทานโรค รวมทั้งความเกี่ยวเนื่องของวัคซีนเด็กในแต่ละประเภท เพราะเหตุว่ามากยิ่งกว่าอ้อมแขนของบิดามารดาเป็นวัคซีนซึ่งเป็นเกราะคุ้มครองป้องกันลูกอีกชั้น อย่ายอมแพ้ที่มองเห็นลูกร้องไห้เมื่อจำเป็นต้องไปพบหมอ เพราะเหตุว่าการเข้ารับวัคซีนตามตอนวัยอย่างเคร่งครัดเป็นการเสริมสร้างสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงระยะยาว เพื่อลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพร้อมศึกษาโลกใบใหญ่ได้อย่างมีคุณภาพ

ไต่ถามข้อมูลเพิ่มเติมถึงที่กะไว้ศูนย์กุมารเวช
ให้บริการ 1 วัน ชั้น 3 โรงหมอหลุดพ้น
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายหมอ หรือบริการขอคำแนะนำแพทย์ออนไลน์ได้