11 วิธีช่วยทำให้คุณเลิกกังวล เรื่องที่ควบคุมไม่ได้

[Jessicas]

อย่ าพึ่งจะสะดุ้งไปพบกคุณเป็นผู้ที่มักเ ค รี ย ด หรือตื่นตระหนกกับสิ่งต่างๆด้วยเหตุว่าโน่นคือเรื่องปกติ

แม้กระนั้นนิสัยอย่ างนี้มันไม่ใช่เรื่องดีนักหรอก เนื่องจากมันส่งผลต่อภาวะจิตใจและก็ชีวิตประจำวันของคุณได้


แม้ว่าการเลิกนิสัยแบบนี้นั้นบางครั้งก็อาจจะไม่ใช่ง่าย แม้กระนั้นก็มีวิถีทางอยู่เช่นกัน วันนี้เรา


ก็เลยมีเคล็ดลับที่สามารถจะช่วยให้คุณไม่เ ค รี ย ด เมื่อจำเป็นต้องเจอหน้ากับสิ่งต่างๆและสิ่งที่ควบคุมมิได้ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้ าง

1. ทำความเข้าใจที่จะปล่อยวาง

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คุณมักจะเหนื่อยใจอยู่ตลอดก็คือการปล่อยวางไม่เป็น การปล่อยวางนั้นย าก

แต่จงจดจำไว้ว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างบางอย่ างที่คุณเปลี่ยนมิได้อยู่ดี สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไปแล้วมันไม่อาจจะถอยกลับคืนมาได้หรอก

ทำไมคุณไม่รับมันแล้วปล่อยมันไปล่ะ ต่อไปนี้คุณจะไปก้าวไปด้านหน้าต่อแล้วก็โฟกัสกับสิ่งที่จำเป็นจริงๆ

2. จุดโฟกัสกับสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ก็พอเพียง

ถ้าเกิดในอดีตกาลคุณทำพลาดไปแล้ว ก็จำเป็นต้องมาคิดถึงสิ่งที่คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขมันได้ขณะนี้แทน ถ้าเกิดคุณไม่พอใจกับผลงานในเดือนที่ผ่านมา

ก็ลองปรับปรุงตนเองขณะนี้ให้ดีขึ้น อย่ ามัวรีรอที่จะปรับแต่งเพราะเหตุว่ามันบางครั้งอาจจะสายไป ตัวอย่างเช่นถ้าเกิดคุณสอบตก คุณก็บางครั้งก็อาจจะจำต้องสร้างนิสัยใน


การศึกษาขึ้นมาใหม่ ควรอย่ าลืมว่ามีสิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนมันได้ แล้วก็ต้องโฟกัสกับสิ่งพวกนี้จะดีมากกว่า

3. ปรับใช้แผนที่ไม่ต า ย ตัวแล้วก็มีความยืดหยุ่น

อย่ าเพิ่งจะยอมถ้าเกิดสิ่งต่างๆไม่เป็นอย่ างที่คุณปรารถนา ทดลองใช้แผนอื่นๆแทนก็ได้

คุณอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ แปลงกรรมวิธีคิด ลองนึกถึงวิธีแก้ปัญหาแทนที่จะมานั่งกังวลกับสิ่งที่ไม่เป็นดั่งจิตใจ

4. ออกมาจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone)

อีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้ท่านหายกังวลก็คือการทดลองทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมด้วยการเปิดใจรับของใหม่ๆเผชิญคนใหม่ๆ

ทดลองทำสิ่งใหม่ๆคุณอาจจะพบว่าตัวเองทำได้ดีกว่าที่คิด จงออกมาจากคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง แล้วคิดให้ต่างไปจากเดิม

5. เป็นจริงเป็นจังพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ที่ดีมากยิ่งกว่าเดิม

คุณต้องพย าย ามปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น แทนที่จะมัวแต่วิตกกังวลกับสิ่งที่ควบคุมมิได้ ศึกษาจากความผิดพลาดในอดีต

รวมทั้งอย่ าพย าย ามเปลี่ยนอดีตกาลเพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่คุณควบคุมมิได้ แต่ว่าต้องเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวคุณให้ดีกว่าเดิม

6. ใช้เวลากับคนคิดบวก

การวิตกกังวลเยอะเกินไปนั้นทำให้ท่านสติแตกได้ ลองคุยกับเพื่อนที่มีทัศนคติที่ดี หรือมองโลกในทางบวก

คุยกับคนที่เขาตั้งใจฟังคุณ และก็เข้าใจคุณ เล่าให้เขาฟังว่าคุณไม่สบายใจกับอะไร


และเอาข้อแนะนำของพวกเขามาประยุกต์ การสนทนากับผู้ที่คิดบวกจะช่วยให้คุณได้มุมมองใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น

7. เปิดใจรับความเคลื่อนไหว

หลายสิ่งในชีวิตนั้นเกิดเรื่องที่ไม่แน่นอน แต่นี่แหละเป็นต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ชีวิตเรานั้นสื่อความหมายขึ้นมาได้ โดยเหตุนี้ต้องเปิดรับความ

เปลี่ยน ด้วยเหตุว่าความเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลบหลีกได้

แต่คนใดกันจะทราบล่ะว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้ าง อย่ ากลัว แล้วก็ต้องเข้าไปค้นหามัน

8. อย่ าโทษตัวเอง

คุณไม่สามารถควบคุมได้ทุกอย่ าง ด้วยเหตุนี้อย่ าโทษตนเอง คุณอาจจะเคยทำอะไรแ ย่ๆมาก่อน

แต่ว่าคุณก็สามารถเอามันมาเป็นบทเรียนเพื่อปรับปรุงตนเองได้ การโทษตนเองมีแต่ว่าจะก่อให้สิ่งต่างๆ

แ ย่ลง สิ่งที่คุณควรทำเป็นมองหาคนที่เคยทำพลาดแล้วทำความเข้าใจว่าเขาปรับแก้มันได้ยังไง ให้กำลังใจตนเองว่าคุณก็ทำเป็นเช่นกัน

9. ฝึกฝนเพื่อให้มีสมาธิและก็มีสติอยู่เสมอ

นั่งสมาธิ ฝึกฝนลมหายใจ ทำให้เป็นประจำทุกวัน แล้วคุณจะพบว่ามันส่งผลดีต่อคุณอย่ างมาก

10. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

วิถีชีวิตคือหนึ่งในสาเหตุของความตื่นตระหนก อย่ างเช่น คุณหนักใจว่าตนเองอ้วนเหลือเกิน แม้กระนั้นคุณก็ยังไม่ยินยอมทำอะไร

แทนที่จะอยู่เฉยๆเพราะอะไรไม่ลองเปลี่ยนมะแม่น้ำละเล็กละน้อยล่ะ? ลองออกกำลังกายทุกๆวัน เลี่ยงอ า ห า ร ขยะ นอนหลับให้เพียงแต่


เพียงพอ บางทีคุณอาจจะคิดว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก แม้กระนั้นศัตรูจริงๆก็คือตัวคุณเองนั่นแหละ เพราะฉะนั้นคุณจำเป็นต้องเอาชนะตัวเองให้ได้

11. หยุดเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือทดลองพักเอาไว้ก่อน

การเล่นโซเชียลมีเดียมากจนเกินไปนั้นทำให้คุณกังวลได้ง่ายอย่างยิ่ง มันมีการเปรียบตัวเองกับคนอื่นอยู่เป็นประจำ หากคุณมีความรู้สึกว่าการ

เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คมันทำให้ท่านรู้สึกแ ย่ คุณก็ควรที่จะเลิกเล่นซะ แล้วหันไปทำอะไรที่มีประโยชน์ หรือให้ความสบายกับคุณแทนจะดีกว่า
คิดมาก
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13460/