มึนงงเลย! จอดรถยนต์หน้าบ้านตนเอง ถูกมนุษย์ป้าแจ้งจับ เพื่อนบ้านรุมเปิดเผยการปฏิบัติ

[Joe524]

สาวงวยงงหนัก จอดรถยนต์ หน้าบ้านตนเองแท้ๆถูกมนุษย์ป้า แจ้งตำรวจจับ 2 ครั้งติด เพื่อนบ้านเปิดเผยการกระทำอีก ปลดปล่อยหมากัดคนในตรอก เรื่องร้องเรียนยาวเป็นหางว่าว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มี.ค.2566 จากในกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์คลิปวีดีโอเหตุการณ์โต้คารมกันกับเพื่อนบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน ภายหลังจากมีปัญหาหัวข้อการจอดรถยนต์และก็ถูกเพื่อนบ้านนำราวแขวนผ้าตั้งตากแดดหน้าบ้าน จนมีการแย้งกันนักข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจดูเหตุดังที่กล่าวมาข้างต้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ตำบลไทรน้อย อ.ไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เจอกับ นางสาวมัลลิกา (ขอรักษาชื่อสกุล) อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์โต้แย้งไว้ กล่าวว่า ตนกับครอบครัวได้ย้ายมาพักอาศัยที่ที่พักหลังนี้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา โดยเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่เกือบติดด้านหลังตรอกต่อไปอีกหลัง โดยบ้านของคู่แค้นที่อยู่ติดกำแพงด้านหลังซอยได้ปลูกต้นไม้สร้างสวนหย่อมขึ้นเต็มพื้นที่บนถนนหน้าบ้านพักของเขาจนกระทั่งแทบไม่มีวันเข้าออกน.ส.ดอกมะลิ กล่าวว่ากล่าว จึงจำเป็นต้องอาศัยมาเดินออกผ่านที่หน้าบ้านของตนเองเป็นประจำ แต่ตนก็มิได้มีปัญหาอะไรด้วย เพราะได้ยินเสียงยกย่องของเพื่อนบ้านรายนี้มาพอสมควรก่อนจะย้ายเข้ามาอยู่ แม้ว่าจะถูกค่อนแคะแอบต่อว่าเสมอๆ และก็บางวันยังมาเดินถ่ายรูปรอบรถยนต์ของตัวเองที่หยุดอยู่หน้าบ้านด้วยน.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า จนกระทั่งเมื่อโดยประมาณวันที่ 11 เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ภายหลังตนขับรถยนต์ออกไปทำธุระนอกบ้านแล้วกลับเข้ามา ก็พบว่าเพื่อนบ้านรายดังที่กล่าวมาข้างต้นได้นำราวตากเสื้อผ้ามาตั้งแขวนตากแดดเต็มหน้าบ้านของตัวเอง ทำให้ตนไม่อาจจะนำรถยนต์เข้าหยุดบนถนนหน้าบ้านได้ตามเดิม ตนจึงเดินไปเรียกให้เขามาขยับราวแขวนผ้าออกไป กลับถูกเพื่อนบ้านรายนี้ว่ากล่าวด่าต่างๆนานา แม้กระนั้นตนก็ข่มใจไม่มานะโต้กลับอะไรกลับไปนางสาวดอกมะลิ บอกว่า จนถึงเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนกับลูกสาวยืนคุยกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอยู่นั้น รถยนต์ของเพื่อนบ้านรายนี้ได้ขับเข้ามาสุดตรอกแล้วจอดขวางหน้าบ้านของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอีกที ก่อนที่จะหญิงสูงวัยในรถจะเปิดประตูรถลงมาแล้วต่อว่าต่อขานพวกตนที่ยืนคุยกันอยู่ว่าไม่มีจิตสำนึกนางสาวดอกมะลิ กล่าวเพราะว่า ก็เลยทำให้บุตรสาวตนที่อยู่ในเรื่องด้วยทนไม่ไหว โต้วาทีกับหญิงสูงวัยคนดังกล่าวไปว่า คนใดกันแน่ที่ไม่มีความสำนึกยึดพื้นที่ถนนหนทางศูนย์กลางไปปลูกต้นไม้จนกระทั่งเข้าออกบ้านตนเองมิได้จะต้องมาอาศัยออกที่หน้าบุคคลอื่นยังน้อยเกินไป ยังเอาราวตากเสื้อผ้ามาตั้งขวางทางบ้านผู้อื่นอีก แล้วต่อจากนั้นชายเฒ่าอีกคนได้เข้ามาต่อว่าตน ถนนหนทางเป็นของส่วนกลางไม่มีโฉนด คนใดจะทำอะไรก็ได้ แม้ไม่พอใจก็ไปไปศาลกัน หลังจากนั้นชายแก่เพื่อนบ้านคนดังกล่าวก็ถ่ายรูปรถยนต์ของตนเองแล้วหายเข้าบ้านไป

นางสาวมัลลิกา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นไม่นาน จู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสองคนขับรถรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่หน้าบ้านพักตน โดยกล่าวว่ามีคนโทรไปแจ้งความว่าบ้านตนจอดรถยนต์กีดกั้นทางเข้าออกที่พักบุคคลอื่น ตนจึงได้ชี้ให้ตำรวจดูว่า รถยนต์ของตนเองจอดอยู่บนถนนหนทางหน้าบ้านในเขตพื้นที่ของตนเอง ไม่ได้หยุดล้ำไปยังหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน เพราะเหตุว่าต้นไม้รวมทั้งวัชพืชต่างๆที่อยู่ในกระถางต่างหากที่ปลูกรุกล้ำเข้ามาที่พื้นที่หน้าบ้านตนแล้วเขาใช้เป็นฟุตบาทเข้าออกผ่านหน้าบ้านตนแทนนางสาวมัลลิกา กล่าวอีกว่า ทำให้ตนหยุดรถยนต์ติดไปด้านหน้าเพื่อไม่เข้าข้างรถยื่นไปล้ำหน้าบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ต่อไป เขาจึงกล่าวหาว่าตนไปกลั่นแกล้งเขา ทั้งๆที่เขาสามารถขยับกระถางที่เอาไว้ปลูกดอกไม้ทำทางเข้าออกได้อีกด้านหนึ่งแต่ว่าเขาก็ไม่ยอมเปิดทางนั้นเอง เลือกที่จะเดินผ่านเข้าออกหน้าบ้านตนแทน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเห็นก็เลยได้เรียกเขาออกมาคุยด้วยเพื่อไกล่เกลี่ยสนทนาแม้กระนั้นเขาไม่ยอม อ้างตัวว่าเป็นทนายความเก่าสักครู่ไปจบในชั้นศาล จนถึงตำรวจจนใจที่จะชี้แจงแล้วเดินทางกลับไป

นางสาวมัลลิกา บอกว่า จากนั้นเพื่อนบ้านอีกทั้งข้างหญิงข้างชายเดินทางออกไปต่างประเทศบ้านได้ไม่นาน ก็มีรถยนต์ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ชุดใหม่ขับเข้ามาที่หน้าบ้านตนอีก โดยบอกว่ามีคนแจ้งเหตุจอดรถกีดขวางเข้าไป ก็เลยจำต้องมาดู ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงกลับไปเสมือนที่ได้ชี้แจงกับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ชุดแรก ต่อมาตนได้นำรายนามของเพื่อนบ้านในตรอกที่ได้รับผลกระทบจากเพื่อนบ้านข้างหลังนี้ ที่ยังมีพฤติกรรมเลี้ยงหมาแล้วปล่อยให้สุนัขไปไล่กัดคนในซอกซอยโดยไม่ห้ามนางสาวมัลลิกา กล่าวต่อว่าต่อขาน รวมทั้งวัชพืชต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่ขึ้นอยู่หน้าบ้านกระทั่งกิ่งไประกับสายไฟฟ้า เข้ายื่นร้องทุกข์กับฝ่ายนิติของหมู่บ้านไปแล้ว แต่เรื่องก็เงียบไม่มีคำตอบคำอธิบายหรือทางแก้ไขใดๆกลับมาให้ตนทราบเลย บุตรสาวตนจึงตัดสินใจโพสต์คลิปเพื่อขอความคิดเห็นจากโลกโซเซียลเพื่อหาทางแก้ปัญหาเพื่อนบ้านเจ้าปัญหารวมทั้งหัวหมอรายนี้

ถัดมาข้าราชการศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อย ได้ลงพื้นจุดเกิดเหตุเพื่อวิเคราะห์ จึงพบว่าเพื่อนบ้านรายนี้มีเรื่องมีราวถูกร้องเรียนเข้ามาแล้วบ่อย ทั้งความประพฤติปฏิบัติที่ยึดพื้นที่บนถนนหนทางส่วนกลางเป็นหลักที่ส่วนตัว เรื่องเลี้ยงหมาที่ปล่อยให้หลุดไปไล่กัดคนอื่นๆด้วย ซึ่งประเด็นนี้ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อยไม่ได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากติดในเรื่องกฎหมายที่หมู่บ้านที่นี้ยังคงเป็นของข้างนิติบุคคลของหมู่บ้านที่ดูแลดูแลกันเองอยู่ ไม่ได้ยกพื้นที่ให้ทางเทศบาล หรือ อบต.เป็นผู้ดูแลศูนย์ดำรงธรรมจะได้เร่งรัดให้ฝ่ายนิติบุคคลของหมู่บ้านที่นี้รีบบังคับใช้กฎที่ต้องปฏิบัติของหมู่บ้านอย่างเคร่งครัดต่อไปกับเจ้าของบ้านรายนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งร้องเรียนกันจนกลายเป็นเหตุบานปลายถัดไป

เพื่อนบ้าน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12862/