• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้ทราบ จากการเป็นลูกจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by Jenny937, April 06, 2023, 01:48:28 PM

Previous topic - Next topic

Jenny937

1. ด้วยเหตุว่าพวกเรามิได้เกิดขึ้นมาเพื่อทำงานอย่ างเดียว

พวกเราไม่ได้ดำเนินการแล้วแฮปปี้ทุกวี่ทุกวัน หลายคราที่พวกเรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แม้กระนั้นหากเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ยกตัวอย่างเช่น วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ และยังรวมไปถึงต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่พวกเราถูกใจจะทำให้ยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น และก็ เพิ่มความมั่นใจ เนื่องจากว่าการเฟลจากที่ทำงานส่วนมากมักทำให้เราท้อแท้ใจ แล้วก็ขาดความเชื่อมั่นในตนเองในตัวเอง ส่วนตัวสำหรับเรามันมีผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน แล้วก็ อีกเยอะมาก


ยกตัวอย่ าง... มีสหายคนนึงชอบตัดเย็บเสื้อผ้ามาก เอาจริงเอาจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ เดี๋ยวนี้ดำเนินการประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จนกระทั่งถึงบัดนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากยิ่งกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. ทราบยัง

สำหรับมนุษย์เงินเดือนตัวจ้อยอย่ างพวกเรา สิ่งที่เราเคารพที่สุดในที่ทำงานก็คงหนีไม่พ้นเจ้านาย คนที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยนานับประการ อย่ างตัวเราเคยพบในขณะที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานมาก ไปจนกระทั่งวันๆไม่ทำการทำงาน คอยสั่งคนนู้นคราวคนนี้หน แต่พอใช้ได้ดูดีๆพวกเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แต่คนๆนี้มันจะมาบ่นว่าขี้เกียจคร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานมากไม่ได้ยังไง เพราะเหตุใดน่ะเหรอ นอกจากจะโดนหัวหน้าของเค้าเองเหม็นหน้าแล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความนับถือด้วย หนำซ้ำอาจจะระรานกันเสียระบบการปกครองทั้งทีม


ถ้าหากให้เสนอแนะก็อย ากจะบอกว่าพย าย ามรู้เรื่องเค้าดีมากกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนชั่วบ้ า ง นิสัยก็แตกต่างกันบ้ า งคือเรื่องธรรดา อย่ าเห็นว่าเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้มองดูในมุมที่ว่าถ้าหากพวกเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานไหนไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปพบครอบครัว

ไม่ได้อย ากอยู่มืดค่ำๆให้คนที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็มิได้อย ากดำเนินการ ก็อย ากท่องเที่ยวเช่นเดียวกันนั่นแหละ แต่แค่ออกหน้าขี้บ่นแบบพวกเราไม่ได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองคิดดู

เพียงแค่เราพรีเซนเทชั่นงานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจะต้องเอางานเราไปพรีเซนเทชั่นกับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องผู้ใดที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้เยอะ เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นปกติ

3. อย่ าเป็นตัวของตัวเองเกินความจำเป็นในโลกอินเตอร์เน็ต

หลายท่านเชื่อว่าโลกโซเชียลเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของพวกเรา แต่ว่ารู้รึเปล่าว่า HR ปัจจุบันนอกเหนือจากการที่จะดู resume เราแล้ว ยังมองเ ฟ ส บุ ค ของเราด้วย เพื่อนเราที่เป็น HR การันตีมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า เห็นไหมว่าตัวตนบนโลกอินเตอร์เน็ต

ของพวกเรานั้นส่งผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อพวกเราเป็นมนุษย์เงินเดือนเต็มตัว เรื่องพวกนี้ยิ่งต้องระมัดระวัง อย่ างเราคือไม่สัมผัสเฟสบุ้คเลย หรือถ้าจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าถ้าหัวหน้ามาเห็นก็ไม่เป็นไร


ถ้าอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆชี้แนะให้แยกเฟสสถานที่สำหรับทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาน้ำที่พด้วย ด้วยเหตุว่า ส่วนมากคนในสถานที่ทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่ทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้าโง่เขลา ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่นอน...!! เตือนแล้วนะ

4. จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา พึงพอใจ เอาใจใส่ แม้กระนั้น... อย่ าเก็บทางวิ่งคนอื่นมาอิจฉาริษยา

ช่วงปีให้หลังมานี้ เพื่อนเราคนไม่ใช่น้อยเริ่มศึกษาต่อ สร้างครอบครัว บางคนแปลงงานไปงานที่ค่าจ้างรายเดือนสูงสุดๆบางคนเริ่มธุรกิจของตัวเอง บางครั้งบางคราวเราเลื่อนมองหน้าเฟสและจากนั้นก็แอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้ก้าวหน้า แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แม้กระนั้นบอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็ไม่ได้ดีมากกว่าพวกเราหรอกดีไม่ดีเพื่อนพ้องหลายๆคนบางครั้งก็อาจจะกำลังอิจฉาริษยาชีวิตพวกเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกพวกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... คือตัวเราเองก็มิได้คิดเลยว่าชีวิตเราดี สิ่งที่เราคัดกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี ต้องจดจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา ทราบดีว่าเรากำลังจะทำอะไร ทราบว่าจุดหมายเราปรารถนาอะไร รู้ดีว่าวันนี้เราประพฤติดีกว่าเมื่อวานแล้วหรือยัง ก็พอเพียงแล้ว แอบมองลู่วิ่งบุคคลอื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้เราเป็นจริงเป็นจังกับชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระนั้นอย่ าเก็บมาเอาใจใส่จนกังวลเพียงพอ

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

ประเดี๋ยวก่อน...!! อย่ าเพิ่งสะดุ้งไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนมิได้มีความหมายว่า ให้พวกเราไม่ต้องจิรงดวงใจกับคนไหนกัน แม้กระนั้น... หมายความว่า " เราไม่ใฝ่ใจข้างใด " อย่ างที่รู้กันว่าในออฟฟิศหลายๆที่

มีการเล่นพรรคเล่นพวก หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าผู้ที่เล่นการเมือง (มากๆ) จำนวนมากปราศจากความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแต่เล่นเค้าไว้มากมายนี่ห้ามเสียท่าเลยจ้ะ มีคนรอซ้ำมากเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่เป็น... การที่พวกเราดูว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร มิได้พูดว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือ ฝืนตนเอง แต่... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความพอใจ

โตมาในสังคมที่แตกต่าง การที่พวกเราดูแล้วทราบว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะก่อให้พวกเราเป็นต่อมากๆนอกเหนือจากวางตัวง่ายแล้ว พวกเราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางบุคคลที่ดูแล้วไม่ถูกจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักสวัสดีตามมารย าท ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... เราไม่ทราบหรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปดำเนินงานกับคนไหนกัน ฉะนั้น อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงไม่ได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แต่ว่าในอนาคต อาจได้โครจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดีกว่าโดนดุด่าตอนอายุ 50

ด้วยความที่อายุยังน้อย ความหวังจากคนรอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ถึงแม้พวกเราจะรู้สึกกดดันสำหรับในการดำเนินงานสุดๆแม้กระนั้นเชื่อเถอะ เราล้มเหลววันนี้ ดีกว่าเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนกระทั่ง 50-60 ก็ผ่านช่วงเวลาแบบเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะชี้แนะคือ.. ใช้เวลานี้ให้คุ้ม เราไม่ได้อายุ 20 กว่าๆตลอดกาล อย ากทำอะไรทำ อย าถ้อยคำมอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันไม่ดีก็พรีเซ้นไปเรื่อยฝึกหัดไปเรื่อยโดนด่าในขณะนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนด่าทอตอนอายุ 50 มากมาย ถึงจะผิดพลาด ด้วยความยังเด็ก และ อ่อนประสบการณ์ คนส่วนใหญ่พร้อมจะยกโทษเราเสมอ ด้วยเหตุดังกล่าว ล้มเหลวจำนวนไม่ใช่น้อยเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามต่างกันระหว่าง " เพื่อน " กับ " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " เป็นยังไง ที่เค้าพูดว่ายิ่งโต ยิ่งหาสหายย ากก็น่าจะจริง สมัยประถม การหาสหายใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม รวมทั้งการหาเพื่อนในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าไหร่ พวกเราจะหาเพื่อนพ้องย ากขึ้นเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าการหาสหายที่แท้จิตใจคนนึงในออฟฟิศมันย ากมากแค่ไหน


นอกเหนือจากการที่จะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน อีกทั้งตำแหน่ง ค่าตอบแทนรายเดือน การวัด เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนเงินเดือนอย่ างพวกเราเป็นไปดำเนินการ มิได้ไปทำกิจกรรมสานชมรมหาเพื่อนฝูง โดยเหตุนั้นวันๆพวกเราก็เลยจะพบแค่เพื่อนพ้องร่วมกลุ่ม ซึ่งส่วนมากแล้วหลังจากนั้นก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานแค่นั้น

เราโชคดีที่พบกลุ่มที่ดี คุยได้ทั้งยังเรื่องส่วนบุคคลและก็เรื่องงาน พูดได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน แล้วก็สหายร่วมงานในครั้งเดียวกัน การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้ววางใจแบบงี้ พวกเรามีความรู้สึกว่ามันคือกำไรชีวิต พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดหน่อยก็ยังดี ) ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ทีมเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้พบเห็น

เสวนาแลกเปลี่ยนความเซ็งก็ดีแล้ว ให้เราลองถามตัวเองว่า "หากพวกเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" หากคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย คุณเจอสหายจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้ว

7. หาคนที่เป็นมากกว่า " สหายร่วมงาน " ให้พบ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ความต่างระหว่าง " เพื่อนพ้อง " กับ " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " คืออะไร ที่เค้าพูดว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนฝูงย ากก็น่าจะจริง สมัยประถม การหาเพื่อนใหม่ไม่ย ากเท่าสมัยมัธยม รวมทั้งการหาเพื่อนฝูงในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแสดงว่ายิ่งเราโตขึ้นเท่าใด เราจะหาเพื่อนพ้องย ากขึ้นเท่านั้น

และไม่จำต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่จริงดวงใจคนนึงในสำนักงานมันย ากแค่ไหน นอกจากจะมีเรื่องผลตอบแทน ทั้งยังตำแหน่ง เงินเดือน การวัด เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนค่าจ้างรายเดือนอย่ างพวกเราคือไปปฏิบัติงาน มิได้ไปทำกิจกรรมสานสัมพันธ์หาสหาย โดยเหตุนี้วันๆเราก็เลยจะเจอเพียงแค่สหายร่วมกลุ่ม ซึ่งโดยมากแล้วหลังจากนั้นก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานเท่านั้น

เราโชคดีที่เจอกลุ่มที่ดี คุยได้ทั้งยังเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน พูดได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และก็สหายร่วมงานในคราวเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจอย่างนี้ พวกเราคิดว่ามันคือกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดนึงก็ยังดี ) ไม่จำเป็นต้องอยู่ทีมเดียวกันก็ได้ แค่ได้พบเจอ พูดคุยแลกความเซ็งก็ดี ให้พวกเราทดลองถามตัวเองว่า "หากเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" ถ้าคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอสหายจริงๆในสถานที่ทำงานแล้ว

8. ควรเป็น " ผู้รับจ้างมือโปร "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย ถ้าหากอย ากประสบความสำเร็จ รวมทั้ง เป็นสุข จงเป็น " ลูกจ้างมืออาชีพ " ให้ได้ พูดง่ายแม้กระนั้นทำย ากนะ เนื่องจากว่าลูกจ้างมือโปรก็คือผู้ที่ตระหนักได้ว่า " พวกเราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าแรงปริมาณหนึ่ง " นั่นหมายความว่าบริษัทเค้าอยากได้อะไรบางอย่ างจากพวกเราแลกกับเงินเดือนนั้นๆ

เราจะต้องทราบดีว่าบริษัทจ้างเรามาทำอะไร และ ทำมันให้ดีมากกว่าที่บริษัทคาดหมายถ้าหากปรารถนาความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่ ถ้าหากงานที่ทำอยู่คิดว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่สมควรทรหดอดทนทำไป


ควรหางานที่เราทำแล้วเราเป็นสุขและทำเป็นดีเพื่อดึงศักยภาพของตนเองออกมาให้สูงที่สุด นอกเหนือจากที่จะทำให้เราเติบโตในหน่วยงานแล้ว ยังเป็นเหตุให้พวกเราปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งพวกเราจะทราบเองว่าควรจะไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ชอบให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าผู้อื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ หากในที่สุดเราพบสายอาชีพที่เรารักแล้วก็อย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมาก

และก็ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " เราถูกจ้างมาด้วยเงินเดือนปริมาณหนึ่ง " อย่ าทำงานหนักเกินกว่าค่าแรงงานจนถึงเหลือเกิน ทุ่มเทได้ แต่ว่าควรมีผลลัพธ์ที่ดีตามออกมาด้วย เป็นต้นว่าได้ปรับค่าตอบแทนรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับพ่อแม่ ญาติๆบ้ า ง หันกลับไปมองข้างหลังบ้ า งว่าผู้ที่เป็นบันไดให้พวกเรามายืนจุดนี้ ขณะนี้เค้าคืออะไรกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าพ่อแม่อายุมากขึ้นทุกวี่ทุกวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าเกิดเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้แด่คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ลำบากหรอก แลกเปลี่ยนกับความสำราญของพ่อแม่
ลูกน้อง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/