• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นเพราะว่า ? รักษาได้เช่นไร ?

Started by kaidee20, January 07, 2023, 02:14:52 PM

Previous topic - Next topic

kaidee20

ตับมีปัญหา จะต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เพราะเหตุว่าแม้ปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และโรคมะเร็งตับได้เช่นเดียวกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อเสียง กล่าวย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และก็เมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าตับกำลังเจอปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? แล้วก็ควรจะดูแลบำรุงเช่นไร..? เนื้อหานี้มีคำตอบให้ท่าน  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเหมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (เก็บกักสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งยังโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด ฯลฯ) รวมทั้งยังเป็นโรงงานดัดแปลง (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน) ถ้าหากร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เสมือนตายทั้งเป็น คำบอกเล่าที่ว่าตับเป็นเหมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็ง อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด ดังเช่นว่า อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารรวมทั้งเกลือแร่ไว้ในเส้นเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยเผาผลาญไขมัน รวมถึงมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารชนิดไขมัน และถึงสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางชนิด
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินและเกลือแร่บางชนิดที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยดัดแปลง ของกินแล้วก็ยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในรูปแบบฉี่ หรือขับถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบเจอกับปัญหาเสื่อมโทรมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งยังจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่กำเนิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนโดยมากเกิดการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการกระทำทำร้ายตับดังเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบกินอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความตึงเครียด
4.ชอบนอนดึกดื่น ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมมากเกินความจำเป็น
6.ขาดการออกกำลังกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารเช้า
9.ชอบกินอาหารสุกๆดิบๆ
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลพวกนี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานหนัก 1 วันแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในทุกวี่ทุกวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองดูอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา เช่น มีลักษณะง่าย อ่อนเพลีย , มีปัญหาสำหรับในการนอนหลับ , ท้องเฟ้อบ่อยๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการอาหารลดน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต ฯลฯแม้คุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวข้างต้นแล้วยังไม่เอาใจใส่กลับมาดูแลตับอีก.. รู้สึกตัวอีกครั้งความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นร้ายแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลและรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยทางทฤษฎีหากเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ด้วยเหตุนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตนเองได้ แต่มิได้หมายความว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเพิกเฉยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ ด้วยเหตุว่าแม้ตับอักเสบซ้ำๆจนเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นโรคตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดเป็น การเอาใจใส่บำรุงตับเพื่อป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในตอนหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
หลีกเลี่ยงอาหารว่าง เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นแล้วก็รสชาติแทนน้ำตาลและก็ผงชูรส
รับประทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงสำหรับการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ (หรือขั้นต่ำ 60 นาที/อาทิตย์)
ขณะทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกำจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) หลีกเลี่ยงการรับยาเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ให้น้อยลงที่สุด
เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือรอบๆที่มีการแปดเปื้อนของสารเคมี รอบๆที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นหากปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตามเดิม เพิ่มเติมเป็นถ้าหากคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราอาจทำได้ยาก ลองมาดูเทคนิคน่ารู้ ที่จะช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ด(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องรับประทาน..เรื่องใหญ่" ของกินที่เรารับเข้าไปในทุกๆวันก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดียิ่งขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรากินอะไรลงไป.. และนี่เป็น 3 ตัวช่วยน่าสนใจซึ่งสามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเจอได้ตามท้องตลาดทั่วๆไป เปิดตู้แช่เย็นเราก็เจอ แม้กระนั้นเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แฝงไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ แล้วก็ป้องกันตับจากพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับการลดไขมันในคนที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
ถึงแม้ชื่อจะไม่คุ้นหูคนอีกหลายๆคน แต่มันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกแล้วก็กรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งส่งผลให้ตับมีสุขภาพดี ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นเยี่ยม โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการทำการวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆในร่างกาย ทั้งยังพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวปริมาณ 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย และยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ชะล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาแบบไม่รู้ตัว เมื่อจะต้องใช้ชีวิตและก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นเรื่องสำคัญซึ่งสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงสำหรับในการเป็น โรคตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดฮิตที่คร่าชีวิตชาวไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพที่ดีเราทำขึ้นเองได้.. โดยถ้าหากสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากปรึกษาผู้ชำนาญ ขอรับคำแนะนำปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage และ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้ที่มีความชำนาญรวมทั้งเภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในทุกเวลา